วันนี้ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗) นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา นายวิวัฒน์ วงศกิตติรักษ์ เลขาธิการประธานศาลฎีกา และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลยุติธรรมในภาค ๑ โดยมีนายอุเทน ศิริสมรรถการ อธิบดีผู้พิพากษาภาค ๑ และคณะ เข้าร่วมการตรวจเยี่ยมด้วย

        เวลา ๐๘.๓๐ น. ประธานศาลฎีกาและคณะตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกา รับทราบและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการทำงาน โดยมีนายไชยรัตน์ บุตรแพ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี คณะผู้พิพากษา ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ

       ในการนี้ ประธานศาลฎีกากล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานหลักของศาลยุติธรรมในปีงบประมาณนี้คือ มุ่งหมายให้ศาลยุติธรรมทำงานเชิงรุกเป็นที่พึ่งแรกของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวจึงได้นำกลไกต่างๆมาใช้ อาทิ เช่น การนำระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องมาช่วยในการลดปริมาณคดีเข้าสู่ศาล ทำให้คู่ความไม่จำต้องเสียค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี การประสานความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมในการพัฒนาระบบการบำบัดและฟื้นฟูผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เป็นผู้เสพ พัฒนาระบบงานการสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเพื่อให้ผู้พิพากษามีความมั่นใจในการใช้ดุลพินิจในการสั่งคำร้องมากขึ้น พัฒนามาตรการในการเยียวยาผู้เสียหาย นอกจากนั้นยังมีนโยบายที่สร้างสมดุลในการทำงานให้กับบุคลากรศาลยุติธรรม โดยมีการทำบันทึกความตกลงร่วมกันระหว่างศาลยุติธรรมกับกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อให้บุคลากรศาลยุติธรรมเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น จากนั้นประธานศาลฎีกาได้กล่าวชื่นชมผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและบุคลากรในศาลจังหวัดธัญบุรีทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจในการบริหารจัดการคดีทำให้ปริมาณคดีค้างพิจารณาลดลงจนเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับศาลยุติธรรมในภาค ๑ ต่อไป

        เวลา ๑๐.๑๕ น. ประธานศาลฎีกาและคณะตรวจเยี่ยมศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกา รับทราบและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการทำงาน โดยมีนางวัลลิกา เนติบันลือฤทธิ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี คณะผู้พิพากษา ผู้พิพากษาสมทบ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ

       ในการนี้ ประธานศาลฎีกากล่าวถึงการทำงานของศาลเยาวชนและครอบครัวว่ามีความแตกต่างจากศาลอื่น โดยมุ่งหวังในการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการของศาล และในปีนี้ซึ่งเป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ จึงมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับศาลเยาวชนและครอบครัวโดยตรง ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการ "ติดตามด้วยความห่วงใย เฉลิมพระเกียรติฯ" เพื่อให้การทำงานของศาลเยาวชนและครอบครัวเป็นไปอย่างครบวงจร และโครงการ “ให้ความรู้และป้องกัน การกระทำความผิดในเด็กและเยาวชน เฉลิมพระเกียรติฯ” เพื่อให้ความรู้เด็กและเยาวชนไม่ให้กระทำความผิดและป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ทั้งนี้ได้รับฟังปัญหา ข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา พร้อมทั้ง แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจบุคคลากรในการทำงาน

       จากนั้น เวลา ๑๑.๔๕ น.  ประธานศาลฎีกาเปิดโครงการให้ความรู้และป้องกันการกระทำความผิดในเด็กและเยาวชน (รู้ก่อนผิด คิดก่อนหลงทาง) เฉลิมพระเกียรติฯ ณ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต ๑ และเขต ๒ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วม เพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายป้องกัน ป้องปราม และส่งเสริมทักษะของเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพื่อให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควร ลดโอกาสที่เด็กและเยาวชนจะกระทำความผิดต่อกฎหมาย  รวมไปถึงการให้ความรู้ถึงภยันตรายในรูปแบบต่าง ๆ แก่เด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมหรือผู้ประสงค์ร้าย อีกด้วย